🗝️ บันทึกถอดรหัส #6.2: เปิดสายตรงถึงข้างใน (ตอนที่ 2) - เปิดสายตรงถึงข้างใน - ประตูสู่ความลึก และบทสรุปการเดินทาง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน 🥰

กลับมาพบกันในตอนสุดท้ายของซีรีส์ "บันทึกถอดรหัสสัญญาณโลกภายใน" นะคะ

ในตอนที่แล้ว (#6.1) เราได้ทำความรู้จักกับ 2 เครื่องมือแรกในการเปิดสายตรงถึง Highest Self กันไปแล้วใช่ไหมคะ 😊 ทั้ง การเขียนคุย (Automatic Writing) ที่เหมือนการ 'เปิดหน้าต่าง' รับฟังเสียงจากข้างใน และ การทำสมาธิเดินทางภายใน (Inner Journeying/Meditation) ที่เหมือนการ 'เปิดประตู' เข้าไปสำรวจในบ้านหลังนั้น

วันนี้ เราจะมาคุยกันต่อถึง วิธีที่ 3 ค่ะ ซึ่งก็คือ การสะกดจิต (Hypnosis) ที่เปรียบเสมือน 'กุญแจดอกสำคัญ' 🗝️ ที่จะไขพาเราลงไปยัง 'ห้องนิรภัย' หรือ 'ห้องใต้ดิน' ของบ้านหลังนี้ ที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของ รากเหง้าของ Fear-based Ego และความเชื่อเก่าๆ... เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รากฐานจริงๆ ค่ะ

นอกจากนี้ เราจะมาคุยถึง หัวใจสำคัญ ที่จะช่วยให้การเปิดสายตรงของเรา ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม เป็นไปอย่างราบรื่นและชัดเจนยิ่งขึ้น และปิดท้ายด้วย บทสรุป ของการเดินทางทั้งหมดในซีรีส์นี้ค่ะ

---

🗝️ วิธีที่ 3: การสะกดจิต (Hypnosis) - ประตูสู่ปัญญาญาณและการจดจำตัวเอง (เชิงลึกที่สุด)

ถ้าหาก... แม้แต่การทำสมาธิเดินทางภายในคลาสแล้ว เรายังรู้สึกว่ายังเข้าไปไม่ถึงแก่น หรือยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนพอที่จะปลดล็อกประเด็นสำคัญได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า Ego ของเราอาจจะยังทำงานปกป้องอย่างเข้มแข็งอยู่ หรือปมนั้นอาจจะฝังรากลึกมากๆ ค่ะ.....ถ้าแจนเจอแบบนี้ แจนก็จะเลือกใช้ การสะกดจิต ค่ะ

เพราะจากประสบการณ์ วิธีนี้จะช่วยพาเรา เข้าสู่ สภาวะ Theta ระดับลึก ที่ "ผ่อนคลายและเปิดรับได้มาก" ค่ะ

การเปรียบเทียบเชิงลึก: การสำรวจบ้านภายใน 🏡

• การทำสมาธิเดินทางภายในด้วยตัวเอง: อาจจะเหมือนเราเดินสำรวจแค่ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ที่เราคุ้นเคย (สภาวะ Alpha/Theta ต้นๆ) เห็นสิ่งที่อยู่ผิวเผิน

• การสะกดจิตที่มีผู้นำทาง: เหมือนมีสถาปนิก หรือคนที่มีพิมพ์เขียวบ้าน พาเราไปเปิด ห้องใต้ดินที่ซ่อนอยู่ หรือห้องลับบนห้องใต้หลังคา (สภาวะ Theta ลึก) ที่เราอาจไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ หรือเข้าไปเองไม่ได้ เพราะมีประตูที่ล็อกไว้ (Ego คอยป้องกัน) ได้อย่างปลอดภัยค่ะ

เพื่อนๆ สามารถย้อนกลับไปอ่านประสบการณ์ตรงที่แจนได้รับการสะกดจิตเพื่อเข้าไปเยียวยาและปลดล็อกปมต่างๆ ได้ใน "บันทึกการเดินทางภายใน" นะคะ ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนเลยว่าสภาวะนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนและลึกซึ้งแค่ไหน

---

ทำไมการสะกดจิตจึงเป็นวิธีที่ลึกที่สุด?

1. 🧑‍🤝‍🧑 มีผู้นำทางที่เชี่ยวชาญ

การสะกดจิต มักจะมี ผู้ช่วยนำทาง (Facilitator หรือ Hypnotherapist) ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำทางเราเข้าสู่ สภาวะ Somnambulistic State ซึ่งเป็นสภาวะที่ผ่อนคลายลึกมากๆ ในระดับ Theta ลึก ค่ะ

• นี่ไม่ใช่การหลับจริง: สภาวะนี้เป็นเหมือน "กึ่งหลับกึ่งตื่น" ที่จิตสำนึกส่วนคิดวิเคราะห์ (คลื่น Beta/Ego) ของเราสงบลงอย่างมาก ทำให้เราเข้าสู่สภาวะ Hyper-Suggestibility (การเปิดรับการนำทางได้สูงสุด) แต่ยังคงรับรู้และโต้ตอบกับผู้นำทางได้อย่างเต็มที่

• การทำงานกับ Ego: ในสภาวะที่ลึกและเปิดกว้างเช่นนี้ ผู้นำทางจะทำหน้าที่สำคัญมาก เพราะถึงแม้จะผ่อนคลายลึกแล้ว Ego (ส่วนที่คอยปกป้องเรา) อาจจะยังทำงานอยู่เงียบๆ เพื่อปกป้องเราจากความรู้สึกที่เคยเจ็บปวด การมีผู้นำทางที่เชี่ยวชาญ จึงเหมือนมีเพื่อนร่วมทางที่คอยช่วยสังเกตสัญญาณเหล่านี้ และใช้คำถาม หรือการนำทางที่เหมาะสม ค่อยๆ สื่อสารและสร้างความไว้วางใจกับ Ego นั้นอย่างนุ่มนวล เมื่อ Ego รู้สึกวางใจและ 'เห็นด้วย' กับการเดินทางครั้งนี้ เขาจะค่อยๆ คลายการป้องกันลงชั่วคราว และอนุญาตให้เราเข้าไปทำงานในพื้นที่นั้นได้อย่างปลอดภัยค่ะ

2. 🛡️ ทำงานร่วมกับเกราะป้องกัน Ego สู่ความกระจ่างแจ้ง

ในสภาวะนี้เอง ที่ส่วนที่คอยปกป้อง (Ego) รู้สึกปลอดภัยและวางใจที่สุด เหมือนยามเฝ้าประตูที่เชื่อใจ และ 'เปิดประตู' ให้เราเข้าไปเอง 🚪 ทำให้เราสามารถเข้าไปเผชิญหน้ากับความจริง หรือทำงานกับพลังงานในระดับที่ลึกมากๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

• ช่องทางสู่ Gamma: สภาวะที่เปิดกว้าง ปราศจากการตัดสิน และเสียงรบกวนของ Ego นี้เอง ที่เป็นช่องทางให้เราสามารถรับรู้ปัญญาญาณที่ลึกซึ้ง หรือแม้กระทั่งสัมผัสสภาวะ Gamma แห่งความกระจ่างแจ้ง (Profound Clarity) ที่มองเห็นทุกอย่างจาก Top View ได้โดยตรง เพราะไม่มีม่านหมอกของ Ego มาบดบังความเป็นจริงอีกต่อไป

• ขยายความ: และอย่างที่เราเคยคุยกันในบันทึกก่อนๆ นะคะ (เพื่อนๆ สามารถย้อนไปอ่าน บันทึกตกผลึก #6 และ บันทึกตกผลึก #7 ได้ค่ะ) สภาวะที่ Ego สงบลง และจิตเปิดกว้างอย่างเต็มที่ใน Theta ระดับลึกนี้เอง ที่เป็นเหมือน 'ฐานปล่อยจรวด' ที่ดีที่สุด ที่จะส่งให้เราทะยานขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์ของคลื่นสมอง Gamma ได้ค่ะ ซึ่งเป็นสภาวะของ ความกระจ่างแจ้ง (Clarity) และความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว (Oneness) ที่มองเห็นทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด เหมือนเราได้ขึ้นไปยืนมองภาพรวมจากจุดที่สูงที่สุดจริงๆ ค่ะ

---

ประโยชน์ของการสะกดจิต (เข้าถึงได้ลึกขึ้น)

🎯 เป้าหมายคือการจดจำตัวเอง: การสะกดจิตก็ยังคงมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เรา "จดจำตัวเอง ว่าเป็นจิตเดิมแท้บริสุทธิ์" และได้รับประโยชน์ต่างๆ เหมือนกับการเดินทางภายใน ไม่ว่าจะเป็นการระลึกถึงความเป็น Multidimensional Being, การเข้าใจกฎธรรมชาติ, การปลดล็อกพรสวรรค์, การเยียวยาปมต่างๆ (Inner Child, Past Life, Ancestral), และการสนทนากับ Highest Self โดยตรง

🔍 ความชัดเจนและการเข้าถึงที่ตรงจุด: เพียงแต่ในสภาวะที่ผ่อนคลายมากๆ นี้ การเข้าถึงข้อมูล การเยียวยา หรือการสนทนา อาจจะมีความชัดเจน ต่อเนื่อง และเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่า สำหรับประเด็นที่ติดค้างลึกๆ ที่ Ego ของเราปกป้องไว้อย่างแน่นหนานั่นเองค่ะ

---

บทบาทของ Facilitator และการต่อยอดในแบบ Intuitive Hypnotherapy

📝 เล่าจากประสบการณ์ตรง

ที่แจนเล่าประสบการณ์ส่วนใหญ่ใน บันทึกเดินทางภายในต่างๆ จากมุมของผู้รับการสะกดจิต หรือผู้เดินทางเอง ก็เพราะรายละเอียด และความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันลึกซึ้งมากๆ ค่ะ ทำให้การเล่าจากประสบการณ์ตรงของตัวเองเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะถ่ายทอดแก่นแท้ออกมาได้ค่ะ

🧑‍🏫 บทบาทผู้นำทางที่ทำงานร่วมกับ Highest Self (Intuitive Hypnotherapy)

ในอีกบทบาทหนึ่ง แจนเองก็ทำหน้าที่เป็น Facilitator หรือผู้นำทางค่ะ ซึ่งแจนอยากขออธิบายนิดนึงว่า การสะกดจิตในแบบที่แจนใช้ อาจจะแตกต่างจากการสะกดจิตบำบัดทั่วไป (Clinical Hypnotherapy) ที่เราอาจจะคุ้นเคยกันนะคะ เป็นแนวทางที่แจนประยุกต์ขึ้นมา เรียกว่า Intuitive Hypnotherapy ค่ะ

• 💫 ความแตกต่าง: หัวใจสำคัญคือการ ทำงานร่วมกับ Highest Self ของผู้รับการสะกดจิตโดยตรงเลยค่ะ แทนที่จะเน้นการให้คำแนะนำกับจิตใต้สำนึกเป็นหลัก แจนจะใช้ สภาวะ Theta-Gamma ของตัวเอง เชื่อมต่อ และ วางแผนการเดินทางร่วมกัน กับ Highest Self ของเพื่อนๆ ค่ะ มันเหมือนเป็นการ ทำงานเป็นทีมเวิร์ค ที่มีการรับส่งไม้กันระหว่างการนำเดินทางอย่างราบรื่น เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางนั้นสอดคล้องกับสิ่งที่ Highest Self ต้องการนำทางจริงๆ

• สร้างพื้นที่ปลอดภัย: จุดประสงค์หลักก็เพื่อสร้างพื้นที่ ที่ผู้รับการสะกดจิตรู้สึก ปลอดภัย และ วางใจ ที่สุดในการเดินทางภายใน เมื่อเรารู้สึกปลอดภัยจริงๆ Ego หรือส่วนที่คอยปกป้องเรา ก็จะสามารถผ่อนคลายและสงบลงไปได้อย่างเต็มที่, เปิดทางให้เราเข้าไปรับรู้เรื่องราว หรือทำงานกับพลังงานต่างๆ ตามจังหวะและความพร้อมของผู้รับการสะกดจิตจริงๆ การนำทางโดยตรงจาก Highest Self นี้เอง ที่ช่วยให้เราสามารถเข้าไปถึง รากเหง้าของปมปัญหา ได้อย่างอ่อนโยน ตรงจุด และเกิดการปลดล็อกได้อย่างแท้จริงค่ะ 😊

• 🌳 การต่อยอด: และในระหว่างกระบวนการเหล่านี้ แจนไม่ได้แค่นำทางการเดินทางภายในเท่านั้นนะคะ แต่จะแบ่งปันหลักการ และความเข้าใจใน "กระบวนการทั้งหมด" ด้วย เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถนำทักษะและความเข้าใจนี้กลับไปฝึกฝนต่อยอด หรือทำ Self-Hypnosis เบื้องต้นได้ด้วยตัวเองค่ะ ทำให้เราสามารถสื่อสารกับ Highest Self เพื่อเข้าไปปลดล็อกปมปัญหาต่างๆ หรือฟื้นคืนศักยภาพที่เคยมี ด้วยตัวเองต่อไปได้ค่ะ

---

💖 หัวใจยังเหมือนเดิม: พลังและปัญญาอยู่ในตัวเรา

💖 พลังอยู่ที่ตัวเรา: ถึงแม้จะมีผู้นำทางที่ทำงานร่วมกับ Highest Self หรืออาจเข้าได้ลึกที่สุด เป้าหมายก็ยังคงเป็นการ "จดจำตัวเอง" และสุดท้ายแล้ว พลังในการเยียวยาและปัญญาทั้งหมดก็มาจากข้างในตัวเราเอง.....Facilitator เป็นเพียงผู้ช่วยเปิดประตูและสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้เราได้เชื่อมต่อกับส่วนที่ลึกที่สุดของตัวเองเท่านั้นเอง

🔑 กุญแจสำคัญ: กุญแจสำคัญก็ยังคงเป็นการ "ผ่อนคลาย", "วางใจ" ในกระบวนการและในตัวเอง, และ "เปิดรับ" ทุกประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ตัดสินค่ะ

---

💎 หัวใจสำคัญของการ "เปิดสายตรง" (ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม)

ไม่ว่าเราจะเลือกใช้ Automatic Writing, การทำสมาธิเดินทางภายในด้วยตัวเอง, การเดินทางในคลาส หรือ การสะกดจิต หัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อและการสื่อสารกับ Highest Self ของเราชัดเจนและราบรื่นขึ้น มีอยู่ 5 ข้อค่ะ:

1. 🎯 ตั้งใจให้ชัด (Clear Intention): ก่อนเริ่ม ลองถามตัวเองว่าเราอยากเชื่อมต่อเพื่ออะไร? (อยากได้คำแนะนำ? อยากเข้าใจความรู้สึกนี้? อยากรับพลังงานดีๆ? หรือแค่อยากใช้เวลาเชื่อมต่อ?) การมีเจตนาที่ชัดเจนเหมือนการตั้งค่า GPS ให้รู้จุดหมายค่ะ

   
   

2. 🧘‍♀️ ผ่อนคลายเป็นหลัก (Relaxation): นี่คือกุญแจดอกสำคัญที่สุดเลยค่ะ! ยิ่งเราผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้มากเท่าไหร่ คลื่นสมองของเราก็จะยิ่งช้าลงจาก Beta สู่ Alpha และ Theta ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดเสียงรบกวนจาก Ego และเปิดช่องให้เราได้ยินเสียงที่ละเอียดอ่อนจากข้างในชัดขึ้นค่ะ

   
   

3. 💖 วางใจในกระบวนการ (Trust): เชื่อมั่นว่า Highest Self สื่อสารกับเราเสมอในรูปแบบที่เหมาะสมกับเราที่สุด และเชื่อมั่นในสิ่งที่เราได้รับ ไม่ว่ามันจะมาเป็นแค่ 'ความรู้สึกแวบๆ' หรือภาพลางๆ ที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็ตาม ลองเปิดใจรับดูก่อนนะคะ

   
   

4. 🙅‍♀️ ไม่ด่วนตัดสิน (Non-Judgment): เปิดรับทุกอย่างที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง ความรู้สึก หรือความคิด โดยไม่รีบตีความว่าดี/ไม่ดี จริง/ไม่จริง ถูก/ผิด. แม้จะมีความคิดว่า 'นี่ฉันคิดไปเองรึเปล่า?' ผุดขึ้นมา ก็แค่รับรู้ความคิดนั้น แล้วกลับมาเป็นผู้สังเกตการณ์ต่อค่ะ ลองเป็นเพียง "ผู้สังเกตการณ์" ที่รับรู้ด้วยใจที่เป็นกลางก่อนค่ะ

   
   

5. 🔁 ฝึกฝนสม่ำเสมอ (Practice): เหมือนการสร้างกล้ามเนื้อเลยค่ะ 💪 ยิ่งเราให้เวลาฝึกฝนการเชื่อมต่อบ่อยๆ ไม่ว่าจะแค่ 5-10 นาทีต่อวัน การเชื่อมต่อก็จะยิ่งง่ายขึ้น แข็งแรงขึ้น ชัดเจนขึ้น และกลายเป็นธรรมชาติของเรามากขึ้นค่ะ ไม่ต้องกดดันตัวเองว่าต้อง 'เห็น' หรือ 'ได้ยิน' อะไรชัดเจน แค่การที่เราจัดเวลามานั่งเงียบๆ เชื่อมต่อกับตัวเอง นั่นคือการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ

---

💖 บทสรุปซีรีส์: การเดินทางเพื่อฟังเสียงข้างใน... ไม่มีวันสิ้นสุด

ตลอดการเดินทางของเราในซีรีส์ "บันทึกถอดรหัสสัญญาณโลกภายใน" นี้ หัวใจสำคัญที่เราได้เรียนรู้และฝึกฝนไปด้วยกัน ก็คือ ศิลปะในการกลับมาฟังเสียงที่แท้จริงจากข้างใน เสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่เปี่ยมด้วยปัญญาและความรักจาก Highest Self ของเราเอง ซึ่งจริงๆ แล้วพยายามสื่อสารกับเราอยู่ตลอดเวลาค่ะ

สรุปการเดินทางในซีรีส์นี้:

• บันทึก #1: ทำความเข้าใจ "กลไกของจิตใจ" ผ่านภาพเปรียบเทียบง่ายๆ ของ "รถชีวิต" 🚗

• บันทึก #2 และ #3: สำรวจช่องทางการสื่อสารผ่าน "ความฝัน" 🌙 ในยามหลับ เรียนรู้วิธีเปิดใจรับฟังและถอดรหัสสาส์นจากฝัน

• บันทึก #4: ฝึกอ่าน "สัญญาณ" ในยามตื่น ☀️ โดยหัดแยกแยะเสียงแท้จริงออกจาก 'เสียงรบกวน' ของ Ego

• บันทึก #5: เรียนรู้ "ภาษา" ทั้ง 4 (ร่างกาย, อารมณ์, เหตุการณ์, ความคิด) ที่สื่อสารผ่าน "สัญญาณไฟเขียว-ไฟแดง" 🚦

• บันทึก #6.1 และ #6.2 (นี้): ได้ลอง "เครื่องมือเปิดสายตรง" ทั้ง การเขียนคุย, การทำสมาธิเดินทางภายใน, และเข้าใจบทบาทของ การสะกดจิต (Hypnosis) ที่ช่วยให้เข้าถึงสภาวะ Theta ได้ลึกขึ้น

เครื่องมือเหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยให้เรา "จดจำตัวตนที่แท้จริงตัวเอง หรือ จิตเดิมแท้บริสุทธิ์ (Highest Self)" ในมิติที่ลึกซึ้งขึ้น ทั้งความเป็น Multidimensional Being, การเข้าใจกฎธรรมชาติ, การปลุกพรสวรรค์, และ เป้าหมายสูงสุด คือการเปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก Fear-based Ego Mode ไปสู่ Functional Ego Mode เพื่อให้เราสามารถสื่อสารโดยตรง และทำงานร่วมกับ Highest Self ได้ตลอดเวลา ค่ะ

หัวใจสำคัญคือ การผ่อนคลาย, วางใจ, ไม่ตัดสิน, และฝึกฝนสม่ำเสมอ

ซีรีส์ "บันทึกถอดรหัสสัญญาณโลกภายใน" อาจจะจบลงที่บันทึกนี้ แต่การเดินทางที่แท้จริงเพื่อฟังเสียงข้างในของเรานั้นไม่มีวันสิ้นสุดนะคะ

แจนหวังว่าเรื่องราวและแนวทางที่แบ่งปันมาทั้งหมด จะเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทางและเป็นแสงสว่างเล็กๆ ให้ทุกคนบนเส้นทางการกลับมาเชื่อมต่อกับตัวเอง ได้สัมผัสถึง ความเบิกบานใจ ระรื่น (Joy), ความกระจ่างแจ้ง (Clarity), และ ความซาบซึ้งในคุณค่าของชีวิต (Appreciation of Life)

ซึ่งเมื่อเราฝึกฝนจนการสื่อสารนี้กลายเป็นธรรมชาติ มี "สำนึกรู้ที่ยืดหยุ่นไหลลื่น" ไม่ว่าจะผ่านการเดินทางภายในด้วยตัวเองหรือการสะกดจิต เราก็จะค่อยๆ ได้สัมผัสกับสภาวะ Gamma Flow ที่เป็นอิสระและสุขล้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในชีวิตประจำวัน เป็นการเดินทางกลับบ้าน กลับไปสู่ความสุขที่เรียบง่ายและแท้จริงที่เป็นธรรมชาติเดิมแท้ของพวกเราทุกคนค่ะ 😊

---

หมายเหตุสำหรับผู้ที่สนใจเดินทางต่อ:

สำหรับเพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ และรู้สึกว่าการเดินทางด้วยตัวเองอาจยังต้องการผู้ช่วยนำทางในช่วงเริ่มต้น แจนได้รวบรวมรายละเอียดของคลาส หรือ Private Session ไว้ใน "แผนที่การเดินทางทั้งหมด" ด้านล่าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสำรวจโลกภายในนะคะ สามารถลองศึกษาข้อมูล หรือสอบถามเข้ามาทาง Inbox ได้เลยค่ะ 😊

𝐖𝐢𝐭𝐡 𝐃𝐞𝐞𝐩 𝐋𝐨𝐯𝐞 & 𝐑𝐞𝐬𝐩𝐞𝐜𝐭 𝐭𝐨 𝐀𝐥𝐥 𝐋𝐢𝐟𝐞 𝐀𝐬 𝐎𝐧𝐞 💕